สงสัยกันมั้ยว่าทำไมช่วงนี้เพื่อนเราหลายคนถึงได้ลุกขึ้นมาปะแป้ง ทาแป้งหน้าขาว แล้วอัพรูปเต็ม news feed ไปหมด แถมอัพโหลดรูปตัวเองไม่พอ บางทียังมาท้าให้เราหน้าขาวเพิ่มอีกคน ดูไปดูมาแล้วกิจกรรมนี้มีวิธีการเล่นคล้ายกิจกรรมที่มีจุดเริ่มต้นมาจากฝั่งอเมริกาอย่าง Ice Bucket Challenge เลย
จริง ๆ แล้วการ ทาแป้งหน้าขาว นั้นมีที่มาที่ไปนะ เพราะมันคือกิจกรรมทางการตลาดออนไลน์ของแป้งยี่ห้อหนึ่ง โดยแบรนด์นี้ได้เชิญชวนให้ user อัพโหลดรูปตัวเองในสภาพทาแป้งหน้าขาว แบบครีเอทสุด ๆ แล้วอัพโหลดรูปลงบน Facebook หรือ Instagram ของตัวเอง ต่อจากนั้น user ต้องทำการใส่ hashtag ที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญนี้ หลังจากที่ได้อ่านกฎ กติกา การร่วมสนุกของกิจกรรมนี้แล้วเราไม่เห็นว่าทางแบรนด์จะกำหนดให้ user ต้องท้าเพื่อนเพิ่มเลย แต่ทาง user คงอยากเพิ่มสีสันในการร่วมสนุก เลยเพิ่มวิธีการมาอีกหนึ่งอย่าง แต่เท่าที่เราเห็นเพื่อนบน Facebook ที่ ทาแป้งหน้าขาว นั้น เราก็ไม่เห็นจะมีใครใส่ hashtag ที่โยงกลับไปหาแบรนด์เลย ดูเหมือนจะมีแต่คนที่ทำขึ้นมาสนุก ๆ แล้วก็ท้าเพื่อนต่อไปเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง
ในด้านของกิจกรรมนั้นก็ไม่ได้จบเพียงแค่ให้ user ทาแป้งเอาฮาแล้วอัพรูปลง social media เท่านั้น แต่หากมี user มาร่วมสนุกกับแบรนด์และกดไลค์ให้กับเพจของแบรนด์จนครบจำนวน ๆ หนึ่ง แบรนด์ก็จะนำเอาผลิตภัณฑ์ของตนนั้นไปบริจาคให้กับมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับสตรี ซึ่งนี่ก็คือข้อแตกต่างของกิจกรรมของแบรนด์นี้กับ Ice Bucket Challenge เพราะของ Ice Bucket Challenge ผู้ร่วมสนุกต้องควักเงินตัวเองไปบริจาค แต่สำหรับกิจกรรมนี้นอกจาก user จะได้รับความสนุกสนานแล้วยังถือเป็นการร่วมทำบุญไปกับแบรนด์อีกด้วย แต่ Ice Bucket Challenge ก็นำเสนอความหลากหลายที่มากกว่า เพราะนอกจาก user จะสามารถอัพวีดีโอเอาน้ำเย็นราดตัวผ่านแพลตฟอร์ม social media ได้เกือบทุกตัวแล้ว user ยังสามารถท้า/tag เพื่อนต่อไปได้อีก 3 คน ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมแคมเปญ Ice Bucket Challenge ถึงได้ go viral ได้เยอะขนาดนี้
เรียกได้ว่ากิจกรรมแนวนี้กำลังมาแรงสุด ๆ ในชั่วโมงนี้ เพราะหลังจากที่แคมเปญ Ice Bucket Challenge ประสบความสำเร็จจนถึงขีดสุด นักการตลาดออนไลน์คงมองหาช่องทางในการทำการตลาดผ่านวิธีการแบบนี้กันอยู่บ้าง ส่วนแบรนด์ไหนจะลองนำวิธีการนี้ไปปรับใช้กับแคมเปญตัวเองดูก็ได้นะ