การผสานรวม การตลาดเครื่องมือค้นหา เข้ากับ การตลาดอีคอมเมิร์ซ ของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้าพบเห็นร้านค้าของคุณบนหน้าผลการค้นหาของ Google Search ง่ายขึ้น เมื่อการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) และ ทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (SEM) อย่างถูกต้อง คุณจะเห็นได้ทันทีว่าการเข้าชมร้านค้าของคุณดีขึ้น ซึ่งมันจะทำให้ เกิดการซื้อมากขึ้น และ เกิดการซื้อซ้ำของลูกค้า สร้างกำไรให้กับคุณอย่างมหาศาล
แต่การทำ SEO อาจเป็นกลยุทธ์ที่จัดการได้ยาก หากคุณไม่ทราบวิธีเปรียบเทียบ SEM กับ SEO เราขอเชิญชวนคุณมาอ่านทำความเข้าใจไปพร้อมกับเจาะลึก ความเหมือน และ ความแตกต่าง ของทั้งคู่ รวมถึงวิธีนำสิ่งเหล่านี้มาปรับใช้เพื่อการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพของธุรกิจคุณ
อะไรคือ กลยุทธ์ SEO กับ SEM?
ผลการค้นหาของ Google แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ ผลการค้นหาแบบเสียค่าใช้จ่าย (SEM อยู่ในหมวดนี้) และ ผลการค้นหาแบบทั่วไป (SEO อยู่ในหมวดนี้) โดย SEO มุ่งเน้นที่การจัดอันดับในผลลัพธ์แบบออร์แกนิก ส่วน SEM คือเมื่อคุณใช้ทั้ง SEO และ โฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (Pay Per Click) เพื่อให้ได้การเข้าชมที่มีคุณภาพจากเครื่องมือค้นหา
SEO หรือ Search Engine Optimization
SEO ช่วยให้ธุรกิจโปรโมตเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ของตนในหน้าผลการค้นหาของ Google Search โดยการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เว็บไซต์มีอันดับสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพก็ เช่น ชื่อของหน้าเว็บไซต์, คำอธิบายของหน้าเว็บไซต์, การเขียนคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำใคร เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นการเข้าชมเว็บไซต์แบบออร์แกนิค
SEM หรือ Search Engine Marketing
ในทางกลับกัน SEM ถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการ สร้างการเจริญเติบโตของธุรกิจ และ ได้มาซึ่งลูกค้าสำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณ SEM จะทำงานคล้ายกับ SEO ที่มันช่วยให้แบรนด์ถูกพบเห็นมากขึ้นบนหน้าผลการค้นหา แต่ความต่างคือตำแหน่งการแสดงผลที่จะเเสดงอย่างโดดที่เด่นด้านบนของผลการค้นหาทั่วไป
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดอีกประการหนึ่งระหว่าง SEO กับ SEM ก็คือมันไม่ได้ฟรี นี่คือสาเหตุที่บางครั้ง SEM ถูกเรียกว่า “การค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย (Paid Search)”
SEO vs. SEM: แบบไหนดีต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณมากกว่ากัน
คุณสามารถใช้กลยุทธ์ SEM และ SEO พร้อม ๆ กันได้ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายด้านอีคอมเมิร์ซของคุณในแต่ละขั้นตอน แต่แคมเปญ SEM สามารถช่วยให้คุณเริ่มให้ผลลัพธ์ได้ทันที ในขณะที่ SEO อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผล
SEM นั้นเหมาะสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเปิดตัวร้านค้าอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากบางครั้ง SEO อาจต้องใช้เวลานาน SEM จึงเป็นวิธีการสำคัญในการเข้าถึงผู้ซื้อเป้าหมายที่มีศักยภาพและกระตุ้นให้เขาคลิกเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ แต่เมื่อเวลาผ่านไป SEO จะสามารถช่วยคุณลดต้นทุนในการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างมากเพราะมันฟรี
ร่วมทำการตลาดเครื่องมือค้นหาไปกับเอเจนซี่ผู้เชี่ยวชาญ
ไม่ว่าคุณจะขายผลิตภัณฑ์อะไร มันอาจเป็นการยากที่จะเอาชนะคู่แข่งได้ หากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณไม่ปรากฏให้ลูกค้าพบเห็นบนหน้าผลการค้นหา หากคุณต้องการดึงดูดผู้ซื้อที่มีศักยภาพให้มาเข้าชมเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ เราสามารถช่วยคุณได้
เพียงแค่คุณ ติดต่อเรา IH Digital พร้อมช่วยเหลือคุณในการ วางแผนการตลาดเครื่องมือค้นหาเพื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ให้สำเร็จตามเป้าหมาย
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับ IH Digital
IH Digital คือ ดิจิทัลเอเจนซี่ ที่มีความเชี่ยวชาญรอบด้าน สามารถสร้าง ความเรียบง่าย และ ยืดหยุ่น ให้กับความต้องการด้าน การตลาด ของลูกค้าทั่วเอเชีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล มากกว่า 80 คนในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น
เรามุ่งเน้นไปที่การตลาดดิจิทัลในทวีปเอเชีย พร้อมให้บริการ วางแผน, ให้คำปรึกษา, ออกแบบ, ดูแลโซเชียลมีเดีย, ซื้อสื่อโฆษณา, พัฒนาเว็บไซต์, และ SEM & SEO โดยมีทีมงานมากประสบการณ์คอยสนับสนุนคุณ ไม่ว่าจะเป็น ทีมบริหารจัดการดูเเลบัญชี, ทีมสร้างคอนเทนต์, ทีมโซเชียลมีเดีย, ทีมวางแผน & ซื้อสื่อโฆษณา, นักพัฒนาเว็บไซต์, และ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือค้นหา ทุกคนในทีมของเราสามารถช่วยคุณกำจัดปัญหาความยุ่งยากในการ วางแผน และ ดำเนินการ ทำการตลาดออนไลน์ บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในหลากหลายภาษา
IH Digital เป็นสมาชิกของ Digital 38 Group. (IH Digital, ATC, Digital 38)