ถึงแม้ สตีฟ จ็อบส์ จะจากไป แต่เขาก็ได้ทิ้งข้อคิดทางชีวิตดี ๆ เอาไว้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราสามารถที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
เรียนรู้ที่จะคาดเดาอนาคต
สตีฟ จ็อบส์มองเห็นถึงเทรนด์ในอนาคตได้ว่าจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์, ดีไซน์ หรือฟังก์ชั่นการใช้งานจึงนำหน้าแบรนด์อื่นอยู่หนึ่งก้าวอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น เขาย่อส่วนซีดีเพื่อเอาเพลงทั้งหมดมาเก็บไว้ในเครื่องเล่นเพลงพกพาเพียงเครื่องเดียวอย่าง iPod หรืออย่าง iPhone ก็เป็นผู้นำมือถือจอสัมผัสหรือ touch screen นั่นเอง
การเรียนรู้ที่จะคาดเดาอนาคตนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินชิวิต เพราะหากเรารู้ว่าเราอยากจะทำอะไรในอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า เราก็สามารถคาดการณ์ได้ว่าในอีก 5 ถึง 10 ปีนั้นจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง เราจะได้หาทางป้องกันปัญหาเหล่านั้นไว้ดีกว่าที่จะต้องคอยมานั่งแก้ทีหลัง
โฟกัสแต่ด้านบวก
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ จริง ๆ แล้ว สตีฟ จ็อบส์เป็นลูกบุญธรรม แต่เขาก็ไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ในทางกลับกันเขากลับรู้สึกดีใจที่ตัวเองมีพ่อ แม่ บุญธรรม และเขาก็ยังใช้เวลาว่างในการศึกษาเรื่องคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
แน่นอกว่าหากเราเรียนรู้ที่จะคิดบวกได้ เราก็สามารถที่จะตักตวงประโยชน์จากการคิดบวกของเราได้มากมาย
ล้มได้แต่ล้องลุก
ใคร ๆ ก็ล้มกันได้ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าคุณจะจัดการกับความล้มเหลวนั้นยังไง ในปี 1984 สตีฟ จ็อบส์ ถูกไล่ออกจาก Apple แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาท้อถอยแต่อย่างใด ทุกคนสามารถนำบทเรียนข้อนี้ไปใช้ได้ ให้คิดไว้เสมอว่าอย่ากลัวการล้มเหลว เพราะการล้มเหลวไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุดของทุกสิ่ง
อุปสรรคนำมาซึ่งโอกาส
สตีฟ จ็อบส์ใช้เงินไปจนหมดระหว่างที่เขากำลังพัฒนาคอมพิวเตอร์ในช่วงแรก ๆ แต่แทนที่เขากับหุ้นส่วนจะยอมแพ้ เขากลับนำรถตู้ของตัวเองและเครื่องคิดเลขวิทยาศาสต์ของหุ้นส่วนไปขาย
มองอุปสรรคให้เป็นโอกาส เพราะถ้าคุณสามารถทำแบบนั้นได้คุณก็จะมองเห็นถึงวิธีการแก้ปัญหา
อย่าอายที่จะเรียนรู้จากคนอื่น
ในระหว่างที่สตีฟ จ็อบส์ เรียนอยู่ระดับมัธยมปลาย เขาเข้าร่วมการสัมนากับบริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังอย่าง Hewlett-Packard และก่อนที่เขาจะอายุครบ 21 ปี เขาก็ได้ไปทำงานกับ HP และ Atari จากการที่เขาได้ทำงานกับบริษัทเหล่านี้ทำให้เขามองเห็นว่าบริษัทเหล่านี้มีข้อแตกต่างจาก Apple ยังไงบ้าง
คุณสามารถที่จะใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้จากผู้อื่นได้โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่คุณหมดกำลังใจ เพราะคนเหล่านั้นจะทำให้คุณกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง นอกจากนั้นการที่เราเรียนรู้จากคนอื่นยังทำให้เรามองเห็นข้อดี และข้อเสีย ของคนอื่นเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาตัวเราเอง