ในช่วงที่ผ่านมา ตลาด E-commerce ในไทย มีความคึกคัก และ เติบโตขึ้นอย่างมาก จากปัจจัยเสริมต่าง ๆ ที่เข้ามาเป็นตัวเร่ง ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูล E-commerce มาแบ่งปันกับคุณ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึง E-commerce ของประเทศเรามากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมแรงให้คุณตัดสินใจเริ่มเดินหน้าทำ ธุรกิจ E-commerce ต่อยอดธุรกิจไปในแบบดิจิทัลอย่างจริงจัง เพราะในปัจจุบันนี้ธุรกิจไหนที่ยังไม่ได้เริ่มทำ การตลาด E-commerce อาจจะถือได้ว่าขยับตัวช้ากว่าคู่เเข่งไปแล้ว

ปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการขยายตัวของ E-commerce ในไทย

1. นโยบาย Thailand 4.0: นโยบายของรัฐบาลไทย ที่มุ่งจะพัฒนาประเทศในหลากหลายด้าน ซึ่งการพัฒนานี้รวมไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล ที่ส่งผลดีโดยตรงมากมายต่อ E-commerce และ ส่งเสริมให้ E-commerce เข้าถึงประชาชนชาวไทยอย่างทั่วถึงอีกด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน เช่น Prompt Pay (พร้อมต์เพย์)
2. พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย: ตัวเลขสถิติในด้านนี้ของคนไทยน่าสนใจมาก เพราะ จำนวนอุปกรณ์สื่อสารที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ในประเทศไทยมีสูงถึง 93.39 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรของประเทศที่มีอยู่ 67.98 ล้านคนเสียอีก บวกร่วมกับจำนวนเวลาเฉลี่ยการใช้อินเทอร์เน็ตในเเต่ละวันของคนไทยที่สูงถึง 9 ชั่วโมง ทำให้ธุรกิจที่ เปิดร้าน E-commerce มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าบนโลกออนไลน์สูงมาก
3. การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19: ในส่วนของปัจจัยนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดจริง ๆ แล้ว ผลกระทบของมันต่อธุรกิจก็เกิดขึ้นอย่างมหาศาล รายได้จากหน้าร้านค้าลดลงฮวบฮาบ จนร้านค้าต้องปิดตัวลงทั้ง แบบชั่วคราว และ แบบถาวร หลายกิจการจึงหันมาพึ่งพาช่องทางดิจิทัล เปิดร้าน E-Commerce สร้างช่องทางทำรายได้ ต่อยอดธุรกิจแม้ในยามสถานการณ์ไม่เป็นใจ

สถิติด้าน E-commerce ในช่วงที่ผ่านมาของประเทศไทย

สถิติต่อไปนี้ อ้างอิงมาจาก รายงานปี 2020 ของเว็บไซต์ datareportal

• ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยกว่า 90% ค้นหา สินค้า และ บริการ ที่น่าซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
• ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยกว่า 85% เคยแวะเยี่ยมชมหน้าร้านค้า e-commerce และ 82% เคยสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางการขายออนไลน์
• มีชาวไทยกว่า 39.8 ล้านคน ที่มีช่องทางการจ่ายเงินแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะด้วย E-wallet, Prompt Pay, ตัดเงินผ่านบัตรเครดิตโดยตรง, หรือ แบบอื่น ๆ
• มูลค่าทางการค้า e-commerce แบบ B2C (Business-to-Customer) อยู่ที่ ประมาณ 1.73 แสนล้าน บาท และ มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 14% ต่อปี
• มูลค่าทางการค้า e-commerce โดยรวมรวมอยู่ที่ 3.38 แสนล้าน บาท แบ่งตามหมวดหมู่ สินค้า และ บริการ ที่ชาวไทยนิยมมีดังนี้ 
  • บริการด้าน การเดินทาง และ ท่องเที่ยว ทำเงินได้ 1.93 แสนล้าน บาท อัตราการเติบโตอยู่ที่ 10%
  • สินค้าประเภท อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำเงินได้ 3.63 หมื่นล้าน บาท อัตราการเติบโตอยู่ที่ 7.7%
  • สินค้าประเภท แฟชั่น และ ความงาม ทำเงินได้ 3.25 หมื่นล้าน บาท อัตราการเติบโตอยู่ที่ 14%
  • สินค้าประเภท เฟอร์นิเจอร์ และ เครื่องใช้ภายในครัวเรือน ทำเงินได้ 2.38 หมื่นล้าน บาท อัตราการเติบโตอยู่ที่ 15% 
  • สินค้าประเภท อาหาร และ ของใช้ส่วนตัว ทำเงินได้ 2.2 หมื่นล้าน บาท อัตราการเติบโตอยู่ที่ 22%
  • สินค้าประเภท ของเล่น และ งานอดิเรก ทำเงินได้ 2.15 หมื่นล้าน บาท อัตราการเติบโตอยู่ที่ 19%

แพลตฟอร์ม E-commerce เจ้าต่าง ๆ ของไทย

เราขอยกตัวอย่างแพลตฟอร์ม E-commerce ที่น่าสนใจในประเทศไทยมาให้คุณ ดังนี้

Lazada

แพลตฟอร์ม E-commerce ชื่อดังจาก Alibaba Group ปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ในประเทศไทย เน้นไปที่การให้บริการแบบ B2C (Business-to-Customer) มีความน่าเชื่อถือสูง พ่วงมาด้วยฟีเจอร์อันหลากหลาย ที่เข้ามาช่วยร้านค้าทำการขาย เช่น ตัวช่วยโฆษณา Lazada Sponsored Affiliate หรือ ศูนย์การค้าดิจิทัล LazMall เป็นต้น

Shopee

อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ประจำวงการ E-commerce ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก รูปแบบการให้บริการจะเน้นแบบ C2C ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ตัว Shopee โดดเด่นด้วยกิจกรรมเกมสนุก ๆ ชวนผู้ใช้งานเข้ามาเล่นเพื่อเก็บของรางวัลต่าง ๆ มากมาย

JD CENTRAL

เป็นแพลตฟอร์ม E-commerce ที่เกิดจากการร่วมมือกันของ CENTRAL Group เครือห้างสรรพสินค้าชื่อดังของไทย และ JD.com บริษัท E-commerce ระดับท๊อปของจีน

LINE MyShop

แพลตฟอร์ม E-commerce หน้าใหม่ส่งตรงจาก LINE ผู้เป็นเจ้าของตำแหน่ง แอปพลิเคชั่นสื่อสารอันดับ 1 ในดวงใจชาวไทย ด้วยระบบการใช้งานที่ง่ายมาก ๆ แถมเข้าร่วมได้สะดวกเพียงเเค่มี บัญชีอย่างเป็นทางการของ LINE เท่านั้น จึงทำให้ LINE MyShop เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับเริ่มต้นทำ E-commerce 

Ref. 1, 2

อ่านบทความ E-commerce เพิ่มเติม: 

• LINE MyShop : ฟีเจอร์ การซื้อขายของออนไลน์ ด้วย LINE OA
• LazMall คือ อะไร? ดีต่อ อีคอมเมิร์ซ อย่างไร? ที่นี่มีคำตอบ
• ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ : 4 เทคนิคเด็ดห้ามพลาด สำหรับผู้เริ่มต้น!
• เปิดร้าน E-Commerce : ต่อยอดธุรกิจแบบดิจิทัล ไม่หวั่นทุกสถานการณ์
• SOFINA ใช้ บริษัท Digital Agency เสริมแรงขายใน E-Commerce
• Alipay หัวใจหลักในการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce จีน

เปิดร้าน E-commerce เสริมเเกร่งธุรกิจ สร้างรายได้ไม่มีสะดุด 

ที่ IH Digital เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ การตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และ E-commerce ทำให้เรามีความสามารถให้การช่วยคุณ วางแผนกลยุทธ์ และ เปิดร้าน E-commerce ได้ทั้งบนเเพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Lazada หรือ เเพลตฟอร์มที่ง่าย แต่ผลตอบแทนสูง อย่าง LINE MyShop พร้อมช่วยดูแลบัญชีของคุณในแต่ละแพลตฟอร์ม ให้คุณได้โฟกัสกับการขยับขยายธุรกิจเต็มที่ โดยมีเราช่วยสนับสนุนดูเเลสร้างรายได้แก่แบรนด์ ผ่านร้านค้าออนไลน์สุดปังที่ทำมาอย่างดี ติดต่อเราเลย เพื่อเริ่มงานทันที

ติดต่อเรา

 

---

IH Digital คือ ดิจิทัลเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญรอบด้าน สามารถสร้างความเรียบง่าย และ ยืดหยุ่น ให้กับความต้องการด้านการตลาดของลูกค้าทั่วเอเชีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 ปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลมากกว่า 80 คนในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น