ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร จะเป็นนักคิด นักเขียน นักโฆษณา นักการตลาด เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเผชิญกับภาวะ สมองตัน กันแล้วทั้งนั้น อยากจะหา big idea อยากจะดึงเอา ความคิดสร้างสรรค์ เจ๋ง ๆ ออกมา แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกซะที เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เครียดและกดดันพอสมควร
วันนี้เรามีเทคนิคดี ๆ ที่จะทำให้สมองของคุณพร้อมที่จะคิดเรื่องสุดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลามาแนะนำให้ลองทำกันดู
ปล่อยสมองให้โล่ง เตรียมสมองให้พร้อมสำหรับไอเดียสุดสร้างสรรค์
หยิบสมุดมาซักเล่ม เปิดหาหน้าเปล่าบนสมุด หลังจากนั้นเขียนอะไรลงไปก็ได้ ถ้าไม่รู้จะเขียนอะไรก็เขียนชื่อตัวเองนี่แหละ เขียนย้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะคิดหาคำอื่นมาแทนที่ได้ อาจจะฟังดูเป็นวิธีที่บ้า แต่เชื่อเถอะว่าหลังจากที่เราเริ่มเขียนชื่อตัวเองจนเบื่อแล้วเราจะคิดหาสิ่งอื่นมาแทนที่ชื่อเราได้เอง และสิ่งนั้นก็จะเป็นตัวสร้างความคิดสร้างสรรค์ ให้กับคุณ
ผลิตไอเดียอยู่ตลอดเวลา
ทำได้โดยเขียนไอเดียใหม่ ๆ ขึ้นมา 10 ไอเดียในแต่ละวัน ตอนแรกอาจจะยากหน่อยที่จะเขียนไอเดียใหม่ ๆ ขึ้นมา แต่ถ้าเราค่อย ๆ ทำไป เช่นเขียนหนึ่งไอเดียวันนี้ พรุ่งนี้ค่อยเพิ่มเป็นสอง มะรืนเพิ่มเป็นสาม กว่าเราจะรู้ตัวเราก็ได้คลังไอเดียใหม่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด หรือถ้าขี้เกียจจด อาจจะอัดเสียงใส่ smartphones ก็ได้ จริง ๆ แล้วเวลาที่เราพูดออกมาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเวลาที่เราจด เหตุผลก็เพราะเวลาที่เราเปล่งเสียงพูดไอเดียเหล่านั้นออกมาสมองของเราจะทำการเชื่อมต่อคำพูดเข้ากับไอเดีย ซึ่งจะทำให้เราเห็นภาพไอเดียนั้นได้ง่ายและนำไปสู่การทำให้ในไอเดียนั้นเกิดเป็นโปรเจคขึ้นมา อย่าห่วงว่าไอเดียที่เราคิดขึ้นมาอาจฟังดูบ้าหรือเป็นไปไม่ได้ ประเด็นคือเราได้บริหารสมองของเราทุกวันก็พอแล้ว
เขียนถึงความฝัน
ความฝันในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความฝันในสิ่งที่เราอยากทำ แต่เป็นความฝันที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เรานอนหลับ ทุกเช้าหลังจากที่ตื่นนอน พยายามนึกถึงความฝันที่เกิดขึ้นแล้วเขียนมันลงไปในสมุด ถึงจะจำความฝันทั้งหมดไม่ได้ก็ไม่เป็นไร สามารถเขียนแค่บางส่วนที่เราจำได้ หรือถ้าจำอะไรไม่ได้เลยก็เขียนเป็นเรื่องราวซะเลย โดยเริ่มจากประโยคยอดฮิต “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” หากคุณทำแบบนี้บ่อย ๆ ในที่สุดคุณก็จะจำความฝันทั้งหมดได้ ใครจะรู้ว่าความฝันเหล่านั้นอาจนำมาซึ่งไอเดียดี ๆ ก็ได้
เก็บหนังสือตัด แปะ ภาพไว้กับตัว
คอยตัดแปะภาพหรือคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจไว้ในสมุดซักเล่มนึง โดยการที่เราทำแบบนี้ถือเป็นวิธีพัฒนาความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้วเพราะก่อนที่เราจะตัดแปะอะไรลงไป เราก็ต้องทำการเลือกก่อน หลังจากที่มานั่งดูรูปภาพในสมุด เราก็ต้องใช้ ความคิดสร้างสรรค์ ในการคิดวิเคราระห์รูปภาพต่าง ๆ เพื่อหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลือกรูปภาพเหล่านั้นนั่นเอง
ใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ เดจา วู
มั่นใจว่าหลายๆ คนต้องเคยอยู่ในสถานการณ์ที่เรารู้สึกว่าเราเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วเป๊ะ ๆ หรือ เดจา วู นั่นเอง แล้ว เดจา วู ช่วยในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเรายังไง ก็เวลาที่เกิดเหตุการณ์ เดจา วู ขึ้นในชีวิตของเราให้เราจดบันทึกเอาไว้ จะได้รู้ว่าข้อมูลส่วนไหนในสมองของเราที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นได้
ทำลายพฤติกรรมเดิม ๆ
การสร้างพฤติกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นวิธีพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ลองเดินถอยหลังซัก 20 ก้าวเวลาเดินผ่านสวนที่เราใช้เดินทางเป็นประจำ หรือลองเดินรอบเสาไฟที่ปกติเราเลี่ยงที่จะไม่เดินผ่านดู ส่วนเหตุผลที่การทำลายพฤติกรรมเดิม ๆ มีส่วนช่วยในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ นั่นก็เพราะเวลาเราได้ทำอะไรใหม่ ๆ สมองจะหลั่งสารนอร์เอพิเนฟรินออกมา ซึ่งสารนี้มีส่วนช่วยในการจดจำสิ่งใหม่ ๆ และนอกจากนั้นยังทำให้เราจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย